รูปแบบของ เครื่องสแกนเวลาทํางาน มีแบบไหนบ้าง

Create A Beautiful Space  > Lifestyle >  รูปแบบของ เครื่องสแกนเวลาทํางาน มีแบบไหนบ้าง
0 Comments
เครื่องสแกนเวลาทํางาน

ในการทำงานนั้น เรื่องของเวลาเข้าออกงานถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ๆ เนื่องจากจะสามารถทราบได้ว่าใครเข้าออกงานในเวลาไหน หรือใครมาทำงานในแต่ละวันบ้าง ทำให้องค์กรต่าง ๆ จึงจำเป็นจะต้องมีการลงบันทึกเวลาเข้าออกงานทุกวัน โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ ๆ สิ่งนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก ๆ ซึ่งในยุคนี้สิ่งที่จะมาช่วยจัดการในส่วนนี้ให้ได้ก็คือ การใช้งานเครื่องสแกนเวลาทํางานนั่นเอง 

รูปแบบของ เครื่องสแกนเวลาทํางาน 

1. เครื่องสแกนเวลาทํางาน แบบสแกนลายนิ้วมือ 

เครื่องสแกนเวลาทํางาน แบบสแกนลายนิ้วมือนั้น ถือได้ว่าเป็นเครื่องที่มีระบบการทำงานที่ปลอดภัยมากที่สุด เนื่องจากสามารถช่วยลดปัญหาในเรื่องของการลงเวลาแทนกันได้ถึง 100% เลยทีเดียว โดยระบบนี้จะมีความปลอดภัยที่มากกว่าเครื่องบันทึกเวลาแบบอื่น ๆ สำหรับลักษณะการทำงานของระบบสแกนลายนิ้วมือนี้จะให้พนักงานสแกนลายนิ้วมือ แล้วระบบจะทำการตรวจสอบลายนิ้วมือนั้นด้วยการนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลต้นฉบับที่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ จึงจะสามารถทำการคำนวณเวลาการทำงานของพนักงานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น 

2. เครื่องสแกนเวลาทํางาน แบบสแกนทาบบัตร 

เครื่องสแกนเวลาทํางาน แบบสแกนทาบบัตร เป็นระบบที่จะนำเอาเทคโนโลยี RFID คือ เทคโนโลยีที่จะใช้คลื่นความถี่ในการรับข้อมูลมาใช้ร่วมกันกับบัตรความถี่ 125KHz โดยที่ตัวบัตรจะทำการเก็บข้อมูลพนักงานเอาไว้ ในการใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่นำบัตรที่มีข้อมูลอยู่ไปแตะเข้ากับตัวอ่านเพื่อที่จะทำการบันทึกเวลาเข้า-ออก หลังจากนั้นเครื่องก็จะทำการบันทึกเวลาแบบอัตโนมัติ อีกทั้งระบบนี้จะสามารถนำบัตรกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกด้วย 

นอกจากระบบเครื่องสแกนเวลาทํางานในรูปแบบที่ได้กล่าวไปแล้ว ปัจจุบันยังมีเครื่องสแกนด้วยใบหน้า Face Scan ด้วย โดยเป็นเทคโนโลยีที่สามารถจับภาพตามรูปใบหน้า ตามโครงสร้าง และส่วนที่สำคัญได้ เช่น การจับภาพโครงหน้า คิ้ว ตา จมูก และปาก ในรูปแบบสามมิติแล้วจึงนำมาคำนวณอีกครั้งกับข้อมูลที่ได้มีการลงทะเบียนเอาไว้ในระบบ แต่ระบบนี้ก็ยังไม่ได้มีการนำมาใช้ในองค์กรมากนัก อย่างไรก็ตามการจะนำเอาระบบสแกนแบบใดมาใช้ก็อย่าลืมคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัยที่อยู่ในองค์กรด้วย เพื่อที่จะสามารถช่วยให้องค์กรเลือกระบบสแกนที่ดี คุ้มค่า และสามารถใช้งานได้จริง ตรงกับความต้องการขององค์กรนั่นเอง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ ก็หวังว่าจะช่วยเป็นประโยชน์ให้แก่องค์กรต่าง ๆ ที่จะนำเอาระบบสแกนไปใช้งานได้ด้วยนั่นเอง