ป้องกันอุบัติเหตุจากการขับโฟล์คลิฟท์ ยังไง และการอบรมโฟล์คลิฟท์

การทำงานกับรถโฟล์คลิฟท์ เสี่ยงที่จะเกิดอันตรายขึ้นได้ บ่อยครั้งเรามักพบเห็นข่าวอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถยกหรือรถโฟล์คลิฟท์ ทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวคนขับ หรือจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับผู้คนที่ทำงานในระแวกใกล้เคียง อุบัติเหตุอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้สูบเสีญอวัยวะหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว วันนี้เรามีแนวทางป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถโฟล์คลิฟท์มาฝาก รวมถึงความสำคัญของการอบรมโฟล์คลิฟท์ด้วย   แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ  1.ใช้ความเร็วให้เหมาะสม  การขับรถโฟล์คลิฟท์จะต้องใช้ความเร็วให้เหมาะสม OSHA ให้คำแนะนำว่าผู้ขับขี่ควรขับต่ำกว่า 5 ไมล์ต่อชั่วโมง ควรมีการติดป้ายแนะนำความเร็วในการขับ หรือป้ายจำกัดความเร็ว เพื่อให้ผู้ขับรถโฟล์คลิฟท์ปฏิบัติตามเป็นมาตรฐานเดียวกัน จะทำให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน  2.รักษางาให้ต่ำ  การยกงาสูงจนเกินไป อาจบดบังสายของผู้ขับรถโฟล์คลิฟท์และอาจตามมาด้วยอุบัติเหตุต่างๆ แนวทางการป้องกันคือ รักษางาให้ต่ำ และไม่ควรใช้งานยกของที่มีน้ำหนักมากจนเกินไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่า โฟล์คลิฟท์สามารถยกหนักได้เท่าไหร่   3.เวลาเลี้ยงให้ขับช้าลง  เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในตอนเลี้ยว ควรขับรถโฟล์คลิฟท์ให้ช้าลง การเลี้ยวเข้ามุมด้วยความเร็ว อาจทำให้รถโฟล์คลิฟท์เอียงได้  4.ให้พนักงานอบรมโฟล์คลิฟท์  ข้อนี้สำคัญมาก เรียกได้ว่าสำคัญกว่าทุกๆ ข้อที่เรากล่าวมา เพราะความรู้และความเข้าใจ จะทำให้อุบัติเหตุลดลงได้ การอบรมโฟล์คลิฟท์ สิ่งแรกที่ควรทำ ผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้เทคนิคการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์อย่างปลอดภัย ใช้รถโฟล์คลิฟท์อย่างเหมาะสม ตรวจสอบความพร้อมของรถโฟล์คลิฟท์ ก่อนนำมาใช้งานป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดที่อาจตามมาซึ่งอันตรายต่างๆ ผู้เข้ารับการอบรมยังจะได้รับการปลูกจิตสำนึกในการขับรถโฟล์คลิฟท์อย่างปลอดภัย กฎหมายที่เกี่ยวข้อง กฎระเบียบในการขับโฟล์คลิฟท์ ไปจนถึงการบำรุงรักษารถโฟล์คลิฟท์ ได้ฝึกทดสอบการขับรถโฟล์คลิฟท์จริง โดยมีครูฝึกผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด จำนำไปสู่ความเป็นมืออาชีพในการทำงา น และนี่ก็คือแนวทางดีๆ ในการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้รถโฟล์คลิฟท์หรือการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ เป็นอย่างไรกันบ้าง […]